หลังจากทราบข่าวน้องเบญจา อะปัญ ไม่ได้ประกันตัวจากคดี ม.112
ความรู้สึกที่ขึ้นมาเลยนะคือความสิ้นหวัง
อารมณ์ขึ้น เลยเถิด ค้นชื่อผู้พิพากษาที่เซ็นต์คำสั่ง แล้วโทรไปศาลอาญากรุงเทพใต้
โทรไปแล้วนะ สุดท้ายนึกขึ้นได้ เสมียนปลายสายเค้าไม่เกี่ยวอะไรด้วย
อย่าไประบายอะไรใส่เค้าเลย และ ถามเบอร์ติดต่อยังไงเค้าก็ไม่ให้อยู่แล้วก็ปล่อยไปเถอะ
พออารมณ์เย็นลงก็มาคิด ถ้าเราสิ้นหวังก็เข้าทางรัฐไทยสิ
เพราะเค้าอยากให้เราสิ้นหวัง
นึกถึงบทกวีของเพนกวิ้น
คุกอาจขังดวงดาวแต่ไม่อาจขังแสงดาว
นักโทษการเมืองคดี 6 ตุลา สุดท้ายก็เป็นวีรบุรุษกันทุกคน
เชิดหน้าขึ้น เข้มแข็ง ยิ้มให้กับมัน
จงรักพวกเขาให้มากๆ เค้าไม่มีอะไรให้ยึดอีกแล้ว ถึงต้องทำกันแบบนี้
องค์การตุลาการที่ไม่ได้มาจากประชาชน สุดท้ายหลังพิงของมันก็มีแค่สถาบันกษัตริย์เท่านั้นเอง
จะหวังให้มี เกรียงศักดิ์ ชมะนันทร์ คนที่สองมาปล่อยพวกน้องๆก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
คนรอบข้างสถาบันกษัตริย์มีแต่คิดจะเอาหลังพิงเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัวทั้งนั้น
สิ่งที่ทำได้คือ ประณามมันเข้าไป กับ เก็บความแค้น ไปเลือกตั้งครั้งหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น