อยากเจอไดโนเสาร์ตัวจริงที่โคราช ต้องมาที่ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน
เจ้าลูกสาวได้ไปมา 2 ครั้งครับ ครั้งแรกมากับพ่อแค่สองคน ครั้งที่ 2 ก็เลยพาน้องสาวลูกพี่ลูกน้องมาด้วย
รูปภาพจะสลับไปสลับมาหน่อยนะครับ
หุ่นไดโนเสาร์ตรงทางเข้า
ค่าเข้าสำหรับเด็กฟรีครับ ตรงทางเข้ามีร้านค้าไปอุดหนุนขนมกับน้ำเพิ่มความสนุกในการเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันเลย
ไม้กลายเป็นหินด้านนอก
ไม้กลายเป็นหินก้อนที่สวยน้อยหน่อย ก็จะถูกนำมาจัดสวนอยู่ด้านนอกครับ ก้อนสวยๆอยู่ข้างใน สวนสวยดีครับ
สัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์หุ่นไดโนเสาร์สู้กัน
ผ่านหุ่นไดโนเสาร์สู้กันตัวทางขวาคือ สยามโมซอรัส สุธีธรณี ผมไปคุยกับภัณฑารักษ์ ข้างในปรากฏว่าน่าสนใจมาก คือ เจ้าตัวขวาเนี่ย ตอนขุดเจอครั้งแรกเขาไม่เจอแผ่นหลังของมันก็เลยสันนิษฐานว่ามันรูปร่างเป็นแบบนี้
...แต่ กระดูกจริงๆ มาขุดเจอภายหลังมันเป็นแบบนี้
กระดูกจริงของสยามโมซอรัส สุธีธรณี
ทำให้ผมชอบวิทยาศาสตร์จริงๆ วิทยาศาสตร์นั้นคือศาสตร์ที่ไม่กลัวน่าแหก เราเชื่อไปก่อนก็ได้ แต่ถ้ามีคนหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าที่เราเชื่อนั้นมันผิด เราก็พร้อมที่จะปรับ จะเปลี่ยน จะพัฒนา พร้อมที่จะเชื่อในสิ่งใหม่ แต่ตอนนี้อธิบายน้องยังไม่เข้าใจ ต้องจดไว้ก่อน นี่ขนาดรูปปั้นใหญ่สุดหน้าพิพิธภัณฑ์ยังปั้นผิดเลยครับ ช่างมัน มันคือการเรียนรู้
หน้าอาคารพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน 3 อาคาร เดินถึงกันได้ อาคารแรกคือไม้กลายเป็นหิน อาคารสองคือช้างดึกดำบรรพ์ อาคารสามคือไดโนเสาร์ มาที่อาคารแรกกันก่อนก็จะได้ดูวีดีโอกำเนิดโลกแบบ Simulator มีเก้าอี้ขยับด้วย ตรงนี้ใครพาเด็กไปต้องกอดแน่นๆหน่อยนะครับ เดี๋ยวหล่น จากนั้นไปดูวีดีโอ กำเนิดไม้กลายเป็นหิน สรุปสั้นๆ คือ ไม้ถ้าถูกตะกอนทับ ผ่านไปนานๆ ถ้ามีแร่ธาตุซิลิก้าซึมเข้าเนื้อไม้ ไม้จะไม่ย่อยสลาย แต่จะกลายเป็นหิน มีประโยชน์ให้เราได้ศึกษาว่าเมื่อก่อนต้นไม้เป็นยังไง ไดโนเสาร์อยู่กับต้นไม้แบบไหน ผลก็คือ คือเดิม เหมือนอย่างปัจจุบันนี่แหละ 555
แต่จะมีไม้ที่มีแร่ธาตุอื่นๆพวกแร่อัญมณีไหลเข้าไปผสมด้วยก็สวยดีครับ ไฮไลท์ของอาคารนี้ก็คือไม้กลายเป็นหินอายุเยอะที่สุดทีค้นพบ
ชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์มาจากต้นยุคครีเตเชียสอายุประมาณ 130 ล้านปี
จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่อาคารที่สอง อาคารช้างโบราณ จะเต็มไปด้วยซากช้างดึกดำบรรพ์ ทำให้รู้ว่าอำเภอท่าช้างนอกจากไก่ย่างอร่อยแล้ว ยังมีซากช้างดึกดำบรรพ์รูปร่างแปลก ตัวใหญ่กว่าปัจจุบันมาก มีสี่งาก็มีด้วย
ไฮไลท์คืองาของช้างที่ใหญ่ที่สุดที่ขุดเจอ ใหญ่ขนาดไหนก็ใหญ่กว่าช้างแมมมอธข้างนอกอีก
ช้างแมมมอธจากประเทศจีน พิพิธภัณฑ์ไปยืมมาจัดแสดง
ฟังก์ชั่นถ่ายรูปกับช้างโบราณมี 4 งา
มาที่อาคารสาม ไฮไลท์สำคัญที่สุดของการมาเที่ยว คือ พาลูกมาสัมผัสได้โนเสาร์ ตรงทางเข้าเขาจะทำเป็นถ้ำ มีหัวไดโนเสาร์ มีเสียง ลูกสาวจะกลัวมาก พอผ่านมาได้ก็จะได้เจอกับตัวใหญ่ตัวนี้
สยามโมไทแรนนัส อีสานเอนซิส
สยามโมไทแรนนัส อีสานเอนซิส หรือ ทรราชแห่งสยาม พระเอกของงาน คุยกับภัณฑารักษ์เขาบอกว่านี่คือ "ปู่ของ T-REX" ไดโนเสาร์เทอโรพอด หรือ พวกที่กินเนื้อ เดินสองขา ตัวนี้แหละเก่าแก่เกือบที่สุด ที่สำคัญมันกำเนิดอยู่แถวๆอีสานนี่เอง สิ่งที่ต่างจาก T-REX คือ มันจะตัวเล็กกว่านิดหน่อย ฟันจะเป็นใบเลื่อยต่างจาก T-REX ที่เป็นมนๆ ใหญ่ๆ และ นิ้วมือมี 3 นิ้ว T-REX จะมี 2 นิ้ว
นิ้วมือ 3 นิ้ว
ฟันแบบใบเลื่อยของเทอโรพอดที่เจอที่โคราช
มีเวลาคุยกับภัณฑารักษ์มากเพราะลูกเล่นไม่ยอมกลับ ฮา เลยทำให้รู้ว่า ซากเทอโรพอด ของอีสานเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยสมบูรณ์ เพราะดินบ้านเราเป็นดินทราย ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นชิ้นเล็กๆ ชิ้นใหญ่ๆจะสกัดออกมายากมากเพราะมันแทบรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเนื้อดินไปแล้ว แข็งมาก ไม่เหมือนทางฝรั่งที่ดินเขาคนละแบบกับเรา เจอทีเอามาต่อเป็นโครงกระดูกได้สวยงาม
ต่อด้วยจินตนาการลองหลับตานึกดูว่าถ้าประเทศเราเป็นผู้ผลิตสื่อขนาดใหญ่แบบฮอลลีวู้ด ผมจะเขียนบทให้ทรราชแห่งสยามเป็นพระเอก รวดเร็ว ว่องไว ฉลาด โหด ฟันใบเลื่อย ส่วน T-REX ผมจะให้เป็นตัวประกอบลูกกระจ็อก ตัวใหญ่ๆ แต่วิ่งช้าๆ ซื่อบื้อๆ กัดอะไรก็ไม่เข้า คงสนุกดีพิลึก
ก่อนเห่อ T-REX ก็อย่าลืมนะ ว่าปู่ของมันเกิดอยู่อีสานบ้านเฮา 555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น