บทเรียนเดียวที่เราได้เรียนรู้จากประวัติศาสตร์ คือ ไม่มีใครเรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์ ... เฮเกลจากคำคมของเฮเกลข้างต้นบ่งบอกความรู้สึกในปัจจุบันของผมได้ดี
นำมาซึ่งความ "เซ็ง" ไม่รู้จะทำอย่างไร
หวังว่าที่เขียนในพื้นที่เล็กๆนี้จะพอช่วยอะไรได้บ้าง
อย่างแรก ผมคิดว่าการแสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวัง "ไม่ซ้ำเติมสถานการณ์" เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมาก ช่วยการหาทางออก อย่าหาทางตัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็หัวโจกคนหนึ่งเลยในสงครามข่าวสาร
ไล่เรียงจากความทรงจำถึงประวัติศาสตร์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป
********************************************************
วิกฤติการเมือง 48-49
จุดเริ่ม การชนะคดีซุกหุ้นของคุณทักษิณอย่างมีเงื่อนงำ การใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบในหลายเรื่อง จบด้วยฟางเส้นสุดท้ายการขายหุ้นชินคอร์ปให้กองทุนเทมาเซค
นำมาซึ่ง การประท้วงใหญ่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
จุดจบที่ควรจะเป็น
- คุณทักษิณลาออก เปิดกระบวนการตรวจสอบ
- อีกฝ่ายไม่รัฐประหาร คุณทักษิณเป็นนายกอีกรอบในสภาพบอบช้ำทางการเมืองสุดๆ จนตอนนี้อาจแพ้เลือกตั้งไปแล้วก็ได้
จุดจบจริงๆ รัฐประหาร
********************************************************
วิกฤติการเมือง 50-51
จุดเริ่ม หลังรัฐบาลสุรยุทธิ์ คุณสมัครชนะเลือกตั้ง แต่กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนในขณะนั้น คุณ ยงยุทธิ์ ติยะไพรัช ถูกคดีซื้อเสียงสุ่มเสี่ยงการโดนยุบพรรค คุณสมัครดำริจะแก้รัฐธรรมนูญ
นำมาซึ่ง การประท้วงใหญ่ของพันธมิตรฯรอบสอง
จุดจบที่ควรจะเป็น
- คุณสมัครยอมถอยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ตอนนั้นถอยแล้ว
- พันธมิตรยุติการชุมนุมปล่อยให้คดีเดินไปตามกระบวนการ
จุดจบจริงๆ พันธมิตร ยึดทำเนียบรัฐบาล ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตมากมายจากระเบิด M79 ที่ยิงเข้าไปในทำเนียบ เหตุการ 7 ตุลา 51 การล้อมไม่ให้คุณ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้าไปแถลงนโยบายในรัฐสภานำมาซึ่งการสลายการชุมนุมที่มีคนบาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต จนศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรคในตอนนั้น
********************************************************
วิกฤติการเมือง 52-53
จุดเริ่ม หลังรัฐบาลสมชาย รัฐบาลอภิสิทธิ์ถูกมองว่าเป็นรัฐบาลที่ได้อำนาจมาโดยไม่ชอบธรรม
นำมาซึ่ง กลุ่มเสื้อแดง นปช. จึงมาประท้วงครั้งใหญ่ให้รัฐบาลยุบสภา
จุดจบที่ควรจะเป็น ในขณะนั้นรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้เจรจากับแกนนำ นปช. แล้วจะยุบสภาประมาณ 6 เดือน นปช.ยุติการชุมนุม
จุดจบจริงๆ คุณจตุพรแกนนำคนหนึ่งที่เข้าเจรจาไปเข้าห้องน้ำกลับมาท่าทีเปลี่ยนไปไม่เจรจา นำมาซึ่งเหตุการณ์พฤษภา 53 ผู้เสียชีวิตเกือบร้อยทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้ชุมนุม บาดเจ็บพิการกว่า 2000 คน
*********************************
วิกฤติปัจจุบัน
จุดเริ่มต้น รัฐบาลยิ่งลักษณ์โดยกลุ่ม ส.ส.เพื่ิอไทย นำโดยคุณ วรชัย เหมะ มีการเสนอ พรบ.นิรโทษกรรม ประชาชนยกเว้นแกนนำให้กับประชาชนในเหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น แต่สารถูกเปลี่ยนกลางทางเป็นการนิรโทษกรรมเหมาเข่ง เพราะ คุณทักษิณ และ คุณอภิสิทธิ์กับคุณสุเทพ จะพ้นผิดด้วย
นำมาซึ่ง การคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ จากนั้นจึงเกิด กปปส. นำโดยคุณ สุเทพ ยกระดับการเคลื่อนไหวเป็นขับไล่ระบอบทักษิณ
จุดจบที่ควรจะเป็น ควรออกตามแนวที่ อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ อ.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิช เสนอจะดีที่สุด ถอยคนละก้าว ให้คุณยิ่งลักษณ์ลาออกจากรัฐบาลรักษาการ ตั้งรัฐบาลคนกลาง ทำหน้าที่แค่ดูแลเลือกตั้ง เลื่อนเลือกตั้งออกไป กปปส.ยุติการชุมนุม พรรคประชาธิปัตย์ลงสมัคร ทุกพรรคลงสัตยาบัน รัฐบาลหลังเลือกตั้งจะอยู่แค่ชั่วคราว ปฏิรูปการเมืองเสร็จก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ออกทางนี้จะลดการบาดเจ็บล้มตาย ทุกฝ่ายได้อย่างที่ตัวเองต้องการอย่างละครึ่ง ยอมรับว่าละทิ้งหลักการประชาธิปไตยไป เรื่องเลื่อนเลือกตั้ง เรื่องรัฐบาลคนกลาง ก็ดีกว่าให้ไทยเลือกตั้งแบบบังคลาเทศ
จุดจบจริงๆ ยังไม่มีคำตอบ อยากให้ระดับนำทั้งสองฝ่ายละวางทิฐิ เอาชีวิตประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่มีประโยชน์ใดที่จะชนะกันบนซากปรักหักพัง
เขียนเมื่อ 15 มกราคม 2557 มวลชน กปปส.ปิดกรุงเทพวันที่ 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น