2 ตอนที่ผ่านมาเล่าซะเยอะครับ ตอนสุดท้ายจะเขียนสั้นๆให้ภาพเล่าเรื่องละกันครับ
วิวจากเนินบนสุดของหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟินครับ เมื่อก่อนหมู่บ้านนี้เป็นเหมืองแร่ที่ญี่ปุ่นใช้เชลยสงครามทำงานให้ เหมือนสะพานข้ามแม่น้ำแควบ้านเรา ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวครับ ของอร่อยเพียบเลย ที่ได้ชิมก็มีโรตีไอติมถั่วตัด กับ เต้าทึงไต้หวันครับ
อุทยาทเหย่หลิวเหนือสุดของเกาะไต้หวันครับ นี่คือโขดหินธรรมชาติสร้างครับ สวยมากๆ
หินก้อนที่ดังที่สุดของอุทยานคือ หินเศียรพระราชินีเอลิซาเบทครับ ต้องมาถ่ายคู่ด้วยสักหน่อย แต่นี่เป็นมุมด้านตรงข้ามครับ ไม่ต้องไปต่อแถวกับนักท่องเทียวทั่วไป
วัตถุโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กู้กง กระถาง 2000 ปี ที่มีอักษรจีนโบราณจารึกอยู่ครับ
ชิ้นนี้พอๆกับกระถางครับ นี่คือระฆัง 2000 ปี
นี่คือหยางกุ้ยเฟยตัวจริงครับ สวยมั้ยล่ะ หญิงงามสมัยก่อนต้องอวบอั๋น สะโพกผาย ไม่มีนมครับ อิอิ
เป็นความโชคดีมากๆครับ จริงๆที่กู้กงจะไม่ให้ถ่ายรูปครับ แต่ตอนไปเขาทดลองให้ถ่ายได้โดยไม่ใช้แฟลช ไม่รู้จะให้ถ่ายได้อีกนานมั้ยส่วนสมบัติทุกชิ้นที่เจียงไคเช็คนำมาด้วยตอนแพ้พรรคคอมมิวนิสต์นั้นคัดแล้วคัดอีกครับ เพราะมีเยอะมาก จะใส่เรือมาหมดก็ไม่ไหว สิ่งของทุกชิ้นที่มีรูปมังกรอยู่ สังเกตให้ดีมี 5 เล็บ ทุกตัวครับ คือ เป็นของที่ฮ่องเต้ใช้เอง มี 4 เล็บ 3 เล็บ ของพวกอ๋อง หรือ เชื้อพระวงศ์ใช้ แทบจะไม่ได้เอามาครับ
หน้าอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คครับ ยิ่งใหญ่มากครับ เป็นหินอ่อนทั้งหลัง ข้างในเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติของท่านครับ มีของใช้ส่วนตัวหลายชิ้นสภาพยังดีมากครับ มีชุดแต่งงานที่แต่งกับมาดามซ่งด้วยครับ

สุดท้ายก่อนกลับ ตึกไทเป 101 ตึกที่เคยสูงที่สุดในโลกครับ เสียดายวันไปฟ้าปิด อดดูกรุงไทเปมุมสูง แต่ไฮไลท์อื่นก็เก็บครบครับ คือ ขึ้นลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลก ดูลูกตุ้มป้องกันแผ่นดินไหว ซื้อของฝากก่อนกลับเมืองไทยครับ ลาแล้วครับไต้หวัน เปิดโลกมากๆ เสียอย่างเดียวทีมงานเลี้ยงดีไปหน่อย เลยไม่ค่อยได้กินของกินข้างทางมากนัก 555 ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะครับ
ไจ้เจี้ยน